ทำความรู้จักกับขนน้องหมา 4 ประเภทและวิธีการดูแลขนให้สวยตลอดวัน
การกอดน้องหมาทำให้เรารู้สึกเพลิดเพลินและเคลิ้มไปกับขนที่สุดแสนจะนุ่มฟู เป็นสัมผัสอบอุ่นที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจของเราได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นในช่วงที่เศร้าหรือช่วงที่มีความสุข การได้สัมผัสน้องและซุกหน้าลงไปในขนอันนุ่มสลวยของน้องจะทำให้วันของเรากลายเป็นวันที่ดีได้เสมอ สุนัขแต่ละตัวมีขนอันนุ่มนิ่มแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ การดูแลขนของน้องจึงมีความแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ด้วยเช่นกัน บทความนี้จะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับขนน้องหมา 4 ประเภทและวิธีการดูแลขนรูปแบบต่าง ๆ อย่างถูกต้องเพื่อช่วยรักษาขนนุ่มฟูอันแสนสำคัญของน้องหมาไว้ให้นุ่มสลวย น่าฟัดไปตลอดทั้งวัน
1. ขนแบบเส้น (Wiry Coat)
น้องหมาอย่างในพันธุ์ Schnauzer หรือ West Highland Terrier มีขนลักษณะเป็นเส้นหนวดหรือมีลักษณะของขนที่งอกยาวออกมาเหมือนขนตา ในสุนัขที่มีขนประเภทนี้ เมื่อมีขนใหม่งอกออกมา มักพบว่าขนชุดเก่าจะแห้งและแข็งติดพันกันเป็นก้อน ขนแบบนี้จะมี 2 ชุด ประกอบไปด้วย ชุดขนแข็งและชุดขนที่นุ่มสลวยเป็นเงางาม จึงต้องได้รับการดูแลโดยการหวีขนเพื่อนำขนชุดเก่าออกทุกวัน เพื่อช่วยให้ขนที่งอกใหม่นั้นงอกออกมาอย่างแข็งแรง ใช้กรรไกรตัดเล็มบางส่วนที่ยาวออกอย่างสม่ำเสมอ และอาบน้ำโดยใช้แชมพูทำความสะอาดที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือครีมนวดทุก 3-4 สัปดาห์ก็ช่วยทำให้น้องมีขนสวย เงางามได้ไปตลอดแล้วล่ะ
2. ขนแบบม้วนหยิก (Curly Coat)
น้องหมาที่มีขนม้วนหยิกเป็นธรรมชาติอย่างในพันธุ์ Poodle หรือ Kerry Blue Terrier นั้น มีความพิเศษและแตกต่างจากสุนัขสายพันธุ์อื่น ขอบอกความลับไว้ซักนิดว่า ขนม้วนหยิกของน้องนั้นจะงอกยาวขึ้นเรื่อย ๆ ไปตามเวลาที่น้องโตขึ้นนะ ดังนั้นการตัดเล็มและตกแต่งขนจึงเป็นสิ่งสำคัญ เหล่าคุณพ่อคุณแม่จึงต้องสืบเสาะหาช่างตัดแต่งขนคู่ใจไว้เพื่อน้องโดยเฉพาะ การดูแลขนประเภทนี้จำเป็นที่จะต้องอาบน้ำ ทำความสะอาดถี่กว่าขนประเภทอื่น ประมาณ 2 อาทิตย์ครั้ง เพราะว่าขนมีแนวโน้มที่จะสกปรกได้ง่ายกว่า การเลือกแชมพูสุนัขที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นจะให้ให้ขนแข็งแรง เป็นเงางาม ไม่แห้งกรอบ การหวีขนควรทำเป็นประจำทุกวันเพื่อไม่ให้ขนม้วนหยิกนั้นพันกันจนยุ่งเหยิง
3. ขนแบบสั้น (Short Coat)
น้องหมาที่มีขนสั้น ขนจะมีความยาวอยู่ประมาณ 1- 4 เซนติเมตร อย่างในพันธุ์ Pit Bull Doberman และ Boxer ลักษณะของขนจะเรียบลื่น ง่ายต่อการดูแลและการตัดแต่งที่สุด การดูแลทำความสะอาดควรทำเป็นประจำแต่ไม่ต้องถี่เหมือนกับขนประเภทอื่น เพียงเดือนละครั้งก็เพียงพอ ไม่งั้นน้ำมันเคลือบขนตามธรรมชาติของขนอาจจถูกทำลายไปได้ และอย่าลืมหวีขนด้วยแปรงหวีขนนุ่ม ๆ ให้น้องเป็นประจำซัก 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็เพียงพอที่จะรักษาขนของน้องให้นุ่มสลวยไปได้อีกยาวนานแล้วล่ะ
4. ขนแบบยาว (Long Coat)
น้องหมาขนยาว แม้น้องจะยืนอยู่ไกลถึงหน้าปากซอย ขอเพียงแค่น้องเดินเตาะแตะเข้ามาในมุมสายตาเรา แม้แต่เด็กก็ระบุได้ว่า นี่คือกลุ่มของน้องหมาขนยาว อย่างในพันธุ์ Yorkshire Terrier ขนรูปแบบนี้จะถูกผลัดออกอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี การแปรงขนสำคัญมากสำหรับน้องหมากลุ่มนี้ เพราะมีโอกาสที่ขนจะพันกัน ทำให้ยุ่งเหยิงง่ายมาก สำหรับการทำความสะอาด การอาบน้ำเพียงแค่ 1 ครั้งต่อเดือนก็เพียงพอที่จะดูแลขนของน้องให้แข็งแรงเงางามไปตลอด
การเลือกแชมพูที่มีส่วนผสมของครีมนวดจะช่วยป้องกันให้ขนไม่พันกันและเรียบลื่น นุ่มสลวย เมื่ออาบน้ำเสร็จ อย่าลืมเป่าขนด้วยลมอุ่น ๆ เพื่อให้น้องไม่ตัวเปียกนาน อาจจะเป็นหวัดตามมาได้นะ
การดูแลขนของสุนัขแต่ละตัวนั้นมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไปตามแต่ลักษณะขนในแต่ละสายพันธุ์ เพราะสุนัขของเรานั้นพิเศษ ไม่เหมือนกับน้องหมาตัวไหน ๆ ในโลก เพื่อให้ขนของน้องสวย สะอาด นุ่มสลวยไปตลอด เราขอแนะนำ แชมพูสูตรสำหรับสุนัขและแมว ของ Dr.choice ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดจากธรรมขาติอย่าง ขมิ้นชัน เหงือกปลาหมอ เสลดพังพอน เหมาะสำหรับสุนัขและแมวที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย พร้อมช่วยบำรุงผิวหนังให้ชุ่มชื่น ไม่แห้งคัน แชมพูสุนัขและแมวนี้สามารถใช้ได้กับสุนัขและแมวทุกสายพันธุ์กับขนทุกรูปแบบ อีกทั้งแชมพูยังมีกลิ่นหอมติดทนนาน ช่วยให้ทั้งน้องและเหล่าคุณพ่อคุณแม่ผ่อนคลายไปกับกลิ่นหอมได้ในระหว่างการอาบน้ำ โดยไม่มีผลข้างเคียงและสารตกค้าง เมื่อใช้คู่กับ Coat treatment perfume ของ Dr.Choice จะยิ่งช่วยให้น้องมีกลิ่นหอมยาวนานและขนสวยได้ตลอดทั้งวัน ขอแค่เรารู้จักวิธีการดูแลขนของน้องหมา สมาชิกคนสำคัญในบ้านของเราอย่างถูกต้อง เพียงเท่านี้การดูแลความสะอาดและหมั่นบำรุงขนให้เงางาม นุ่มลื่นก็ไม่ใช้เรื่องยากอีกต่อไป พร้อมให้น้องออกไปโชว์ สะบัดขนสวย ร่วมก๊วนกับเพื่อนหมาตัวอื่นได้ตลอดทั้งวันเลย