https://dr-choicepet.com/

เทคนิคการเลือกซื้อที่นอนให้กับน้องหมา

หลังจากเผชิญวันที่หนักหนาสาหัสมา เราทุกคนต่างโหยหาการหยุดพักทั้งร่างกายและจิตใจ การนอนหลับพักผ่อนเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดของวันเลยทีเดียว แม้แต่เครื่องจักรก็ยังไม่สามารถทำงานต่อเนื่องตลอดเวลาได้ การพักร่างกายที่เหนื่อยล้าจะช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ นอกจากนี้ฮอร์โมนหลายตัวยังทำงานขณะที่เรานอนหลับอีกด้วย ถ้าเรานอนไม่ได้ประสิทธิภาพก็พลอยจะทำให้ร่างกายทำงานแปรปรวนไปด้วย การพักผ่อนอาจจะไม่ได้หมายถึงการนอนหลับเพียงอย่างเดียวเท่านั้น การเอนตัวบนที่นอนนุ่มๆระหว่างวันก็ช่วยชาร์จพลังให้เราพร้อมสำหรับความท้าทายถัดไปที่รออยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สำหรับน้องหมาก็ไม่ต่างกัน หลังจากเล่นสนุกมาอย่างเต็มที่กับเราแล้วก็ย่อมต้องการการหยุดพักบ้างก่อนจะเริ่มทำภารกิจให้เจ้าของปวดหัวในรอบถัดไป ซึ่งในตอนกลางวันน้องอาจจะเลือกนอนพักผ่อนในหลายๆ ตำแหน่งทั่วทั้งบ้านหรือแล้วแต่ว่าตัวเราอยู่ที่ไหน แต่น้องก็ควรจะมีที่ประจำของตัวเองที่มีความเป็นส่วนตัวด้วย และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ที่นอนดีๆที่น้องหมาสามารถทิ้งตัวและหัวใจเอาไว้ได้ แล้วเราจะเลือกซื้อที่นอนอย่างไรเพื่อให้ถูกใจน้องหมาดีนะ

เมื่อเราจะเลือกซื้อที่นอนให้น้อง เราควรดูทั้งความต้องการของน้องรวมถึงปัจจัยต่างๆของเราด้วย ทั้งคุณภาพ ราคา การทำความสะอาด สไตล์และความเข้ากันของบ้าน จริงๆ แล้วการเลือกซื้อที่นอนให้น้องไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และวันนี้เราจะพาไปดูเทคนิกการเลือกซื้อที่นอนให้กับน้องหมาที่รักของเรากัน

เทคนิคการเลือกซื้อที่นอนให้กับน้องหมา

1. เริ่มแรกเรามาดูสไตล์การหลับของเพื่อนรักสี่ขาของเรากันก่อน

คนเรามีท่านอนต่างกัน น้องหมาก็มีรูปแบบการเอนตัวที่ไม่เหมือนกัน น้องๆบางตัวจะมีนิสัยชอบนอนยืดเหยียดตัวเป็นนักกีฬายิมนาสติก เจ้าของน้องหมากลุ่มนี้ก็ควรจะต้องต้องเลือกที่นอนที่มีขนาดกว้างหน่อย แต่ถ้าน้องชอบนอนขดเป็นวงกลม เราอาจจะเลือกแบบที่ขนาดพอดีกับตัวของน้องแทนได้
เราควรสังเกตดูว่า ระหว่างที่น้องกำลังนอน น้องดูร้อนหรือหนาวไหมและไม่ควรเลือกที่นอนที่ทำให้น้องไม่สบายตัว สำหรับอากาศบ้านเราก็คงต้องพิจารณาเผื่อร้อนไว้เป็นหลัก และควรเลือกวัสดุที่เนื้อผ้าเย็นสบายระบายอากาศได้ดี อย่างที่นอนนาโนที่มีเนื้อผ้าเย็นและไม่อับชื้นและถ้าน้องมีนิสัยชอบแทะสิ่งของ เราควรเลือกที่นอนที่ผลิตจากเนื้อผ้าที่ทออย่างประณีตและมีความแข็งแรง เพื่อให้มีความทนทานต่อเขี้ยว เล็บ และฟันของน้องๆได้

2. เลือกขนาดของที่นอน

ที่นอนสำหรับน้องหมาไม่ควรมีขนาดเล็กหรือใหญ่จนเกินไป เราควรเลือกขนาดของที่นอนโดยวัดระยะตั้งแต่จมูกไปถึงหางของน้องหมา จากนั้นให้เผื่อพื้นที่อีกประมาณ 1 ไม้บรรทัด แล้วเราก็จะได้ที่นอนไซส์พอเหมาะสำหรับขนาดตัวของน้อง ถ้าน้องยังเป็นลูกหมาน้อยอยู่ ก็อาจจะเลือกขนาดแบบเผื่อโตไว้สักหน่อย แล้วค่อยหาผ้าห่มมาเสริมบนที่นอนให้กับน้องเพื่อให้พอดีกับขนาดตัว ณ ขณะนั้น

3. อย่าลืมพิจารณาความต้องการพิเศษของน้องด้วย

น้องหมาแต่ละตัวมีความแตกต่างกันทั้งขนาด รูปร่าง ลักษณะเส้นขน รวมถึงความชื่นชอบสิ่งต่างๆเฉพาะตัว น้องๆที่มีขนยาวอาจเหมาะกับที่นอนที่เนื้อผ้าที่เน้นเรื่องความเย็นสบายและระบายอากาศได้ดี หรือน้องหมาบางตัวอาจจะมีปัญหาสุขภาพจำเพาะที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ทาสอย่างเราก็ควรเลือกที่นอนที่สอดคล้องกับปัญหาของน้องโดยตรง อย่างน้องหมาบางตัวอาจจะกลั้นฉี่ได้ไม่ดีมากนัก อาจมีฉี่เล็ดออกมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เราก็ควรเลือกเบาะที่มีพื้นผิวกันน้ำ เช็ดออกง่าย ทำความสะอาดง่าย เพื่อสุขอนามัยที่ดีของน้อง

4. เลือกวัสดุให้สอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมและการจัดการของเรา

อย่างอากาศบ้านเรานอกจากจะร้อนแล้วยังจะชื้นอีกด้วย ที่นอนที่เหมาะสมกับสภาวะอากาศแบบนี้ก็ต้องเป็นที่นอนน้องหมาที่มีเนื้อผ้าที่เย็นสบาย ระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ถ้าเนื้อผ้าสามารถกันน้ำได้ ก็จะช่วยลดคราบสกปรกทั้งคราบฉี่และคราบฝังแน่นอื่นๆ รวมถึงเนื้อผ้าก็ควรจะแข็งแรงคงทนเพื่อให้ดูแลทำความสะอาดได้ง่ายดายอีกด้วย

สำหรับทาสคนไหนที่กำลังคิดไม่ออกว่าจะเลือกซื้อที่นอนจากไหนให้กับน้องหมาผู้น่ารักของตัวเองดี เราขอแนะนำ ที่นอน Dr Choice Nano ที่นอนนาโน มีหลายไซส์ให้เลือกเหมาะกับน้องหมาทุกขนาด ผลิตด้วยนวัตกรรม Nano Technology เคลือบเส้นใยผ้า เนื้อผ้าเย็นสบายเหมาะกับอากาศบ้านเรา ไม่เก็บกลิ่น ไม่อับชื้น ระบายอากาศได้ดี ลดการสะสมของเชื้อโรคต่างๆ แถมยังมีคุณสมบัติกันน้ำ ทำให้ของเหลวไม่ว่าจะเป็นปัสสาวะหรือน้ำลายไม่ซึมลงที่นอน ขนไม่ติด ทำความสะอาดได้ง่าย ส่งเสริมสุขอนามัยทั้งสำหรับเราและน้องๆ ทำมาจากผ้าคุณภาพดีพร้อมกับการตัดเย็บที่ประณีต ใช้งานได้นานคงทน ต่อให้เจอน้องหมานักแทะก็ไม่กลัว นอกจากนี้ยังสามารถนำเข้าเครื่องซักผ้าได้อีกด้วย ช่วยให้ชีวิตสะดวกมากขึ้นอีกมากเลยทีเดียว เพียงเท่านี้เราก็จะหมดห่วงเรื่องการพักผ่อนของน้องๆ และไปพักผ่อนของตัวเองบ้างได้สักทีล่ะนะ