การเลือกทรายแมวอย่างไร ให้ดีต่อใจ และดีต่อสุขภาพ

จริงหรือไม่ หากเลือกทรายแมวไม่ดี หรือจัดการกระบะทรายไม่เหมาะสม อาจเป็นสาเหตุให้น้องแมวเครียด จนเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในที่สุด
การที่จะตอบคำถามข้างต้นได้ คุณจำเป็นต้องเข้าใจก่อนว่า โดยธรรมชาติแล้ว แมวเป็นสัตว์รักความสะอาด ชอบความสงบ และเกิดความเครียดได้ง่าย อีกทั้งความเครียดนี้ ยังอาจส่งผลถึงเรื่องการขับถ่ายปัสสาวะของแมว เช่น การกลั้นปัสสาวะ ปัสสาวะเป็นเลือด กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นต้น

ดังนั้นการดูแลเรื่องการขับถ่ายของน้องแมว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คนเลี้ยงแมวไม่ควรละเลย เพราะจะช่วยให้น้องแมวมีสุขภาพและพฤติกรรมการขับถ่ายที่ดี และป้องกันการเกิดปัญหาระบบทางเดินปัสสาวะตามมาได้ บทความนี้จึงจะมาแนะนำการดูแลการขับถ่ายของน้องแมว ด้วยการเลือกกระบะทรายแมว และการเลือกทรายแมวที่ดีที่สุด รวมถึงวิธีการจัดการกระบะทรายอย่างถูกต้อง โดยรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลยครับ

เลือกกระบะทรายอย่างไรดี

ปัจจุบันเราจะเห็นว่ามีกระบะทรายหลากหลายรูปแบบ โดยที่แต่ละแบบล้วนมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป การตัดสินใจเลือกกระบะทราย จึงขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และความสะดวกต่อการใช้งานของคนเลี้ยงเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าคุณจะเลือกกระบะทรายแบบไหน อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญที่สุด คือ ควรมีกระบะทรายเท่ากับจำนวนแมวที่เลี้ยง +1 เสมอ เพราะอย่างที่บอกไปแล้วครับว่า แมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาด และต้องการสถานที่ขับถ่ายที่เพียงพอ โดย

กระบะทรายแมวที่เรานิยมใช้กันทั่วไป มีอยู่ 2 แบบ

1. กระบะทรายแมวแบบเปิด

ที่มีข้อดีคือ อากาศถ่ายเท น้องแมวเดินเข้าออกสะดวก แต่มีข้อเสียคือ ควบคุมกลิ่นได้ยาก และทรายแมวอาจฟุ้งกระจายได้

2. กระบะทรายแมวแบบปิด

หรือที่นิยมเรียกกันว่า ห้องน้ำแมว ซึ่งกระบะทรายแบบนี้มีข้อดี คือ เหมาะกับคนเลี้ยงแมวในห้องปิด เช่น คอนโด หรืออพาร์ทเม้นท์ เพราะจะลดปัญหาเรื่องทรายแมวฟุ้งกระจาย และควบคุมกลิ่นได้ดี แต่ก็มีข้อเสียคือ โดยส่วนใหญ่ต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกน้องแมวให้คุ้นชิน มากกว่ากระบะทรายแบบเปิด

เลือกทรายแมวอย่างไรดี

มาถึงคำถามยอดฮิตของคนเลี้ยงแมวมือใหม่ที่ว่า ควรเลือกทรายแมวอย่างไร? หรือทรายแมวยี่ห้อไหนดีที่สุด? เพราะจะเห็นว่าปัจจุบันในท้องตลาดมีทรายแมวให้เราเลือกซื้อหลายรูปแบบ หลายยี่ห้อ ดังนั้นบทความนี้จึงขอสรุปเทคนิคการเลือกทรายแมวอย่างง่าย เพียงพิจารณาคุณสมบัติของทรายแมวทั้ง 4 ข้อ ดังต่อไปนี้

1. ซึมซับดี ดักกลิ่นเยี่ยม

เชื่อว่าคนเลี้ยงแมวคงเข้าใจดีว่า ปัญหากลิ่นอึและฉี่แมวนั้นเป็นปัญหาที่จัดการยาก ซึ่งตัวช่วยดักกลิ่นที่ดีที่สุด คงหนีไม่พ้นทรายแมว จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราควรเลือกทรายแมวที่มีส่วนผสมของคาร์บอน เพราะจะช่วยซึมซับได้เร็ว จึงควบคุมไม่ให้กลิ่นฟุ้งออกจากกระบะทรายแมว และกระจายไปทั่วทั้งห้องนั่นเอง

2. ปลอดภัย ไร้ฝุ่น

ฝุ่นที่มาจากทรายแมวนั้น เป็นอันตรายต่อสุขภาพของน้องแมวและคนเลี้ยง เพราะเมื่อสูดดมเข้าไป จะเกิดอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ และยังเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ นอกจากนี้สารบางอย่างที่ผสมลงไปในทรายแมว ก็อาจเป็นสาเหตุให้น้องแมวเกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน เช่น น้ำหอม ดังนั้นปัจจุบันจึงมีการผลิตทรายแมวที่ไม่มีฝุ่น และไม่มีน้ำหอมออกมา เพื่อให้ปลอดภัยต่อสุขภาพต่อน้องแมวและคนเลี้ยงมากยิ่งขึ้น

3. ทำความสะอาดง่าย

คนเลี้ยงแมวในห้องพักหรือคอนโดหลายคน คงไม่อยากเสียเวลาไปกับการกำจัดทรายแมวด้วยขั้นตอนที่ยุ่งยาก ดังนั้นการเลือกทรายแมวที่สามารถย่อยสลายง่าย ใช้ได้กับห้องน้ำแมวอัตโนมัติ และสามารถทิ้งลงชักโครกได้ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยประหยัดเวลาทำความสะอาดไปได้ค่อนข้างมาก

4. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

คนเลี้ยงแมวสายรักธรรมชาติต้องชอบอย่างแน่นอน เพราะทรายแมวนี้ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ เช่น มันสำปะหลัง ก้อนขี้เลื่อย เศษไม้สน เปลือกส้มตากแห้ง ที่นอกจากจะย่อยสลายได้ง่ายแล้ว ยังปลอดภัยต่อน้องแมวโดยเฉพาะน้องแมวที่แพ้ง่ายอีกด้วย

มาถึงตรงนี้ หากคุณยังมีคำถามว่า แล้วควรเลือกทรายแมวยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำ Dr.Choice Cat litter ทรายแมวธรรมชาติคุณภาพดี ที่ผลิตจากมันสำปะหลังในประเทศไทย 100% และด้วยเทคโนโลยีคาร์บอน จึงช่วยซึบซับของเสีย และควบคุมกลิ่นได้ดีเยี่ยม ไม่ก่อให้เกิดเชื้อรา ไม่เกิดฝุ่นฟุ้งกระจาย ปราศจากน้ำหอม จึงลดการแพ้และการเกิดโรคทางเดินหายใจ นอกจากนี้ยังสะดวกต่อการใช้งานและการทำความสะอาด เพราะสามารถใช้กับห้องน้ำแมวอัตโนมัติ ทิ้งลงชักโครกได้ และย่อยสลายทางชีวภาพได้ดี เรียกว่าเป็นทรายแมวที่คุณภาพดี ปลอดภัย ใช้ง่าย แถมยังมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

จัดการกระบะทรายอย่างไรดี

หลังจากที่เราเลือกกระบะทรายแมว และทรายแมวได้อย่างเหมาะสมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม นั่นก็คือการจัดการเรื่องความสะอาดของกระบะทราย เพราะหลายครั้งการที่กระบะทรายสกปรก หรือเริ่มส่งกลิ่นเหม็น มักเป็นสาเหตุที่ทำให้น้องแมวเครียด ไม่ยอมขับถ่าย จนนำไปสู่ปัญหาทางระบบทางเดินปัสสาวะตามมาได้เช่นกัน ดังนั้นจึงแนะนำให้ทำการเปลี่ยนทรายแมวในกระบะทรายอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง และล้างกระบะทรายทุกสัปดาห์ เพื่อสุขภาพและสุขอนามัยที่ดีของน้องแมว และนอกจากนี้ยังควรพิจารณาเรื่องสภาพแวดล้อม เช่น ตำแหน่งการวางกระบะทราย โดยควรวางในตำแหน่งที่แมวรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว หรือสบายใจที่จะขับถ่าย ไม่ควรวางในตำแหน่งที่มีคนพลุกพล่าน หรือมีเสียงดังรบกวน เป็นต้น

จากที่กล่าวมา ก็จะเห็นแล้วว่าเรื่องราวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกกระบะทราย การเลือกทรายแมว หรือการจัดการกระบะทราย ที่ดูเผิน ๆ เหมือนจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ความจริงแล้วเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะส่งผลต่อสุขภาพด้านการขับถ่ายของน้องแมวโดยตรง และที่สำคัญที่สุด หากพบว่าน้องแมวของคุณมีปัญหาเรื่องการขับถ่าย หรือเรื่องพฤติกรรมการใช้กระบะทราย อย่าลืมปรึกษาหรือพาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อทำการตรวจรักษาตามสาเหตุต่อไป