การดูแลช่องปากสุนัข ไม่ให้มีกลิ่นปาก

เจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายท่านอาจจะเผลอมองข้ามเรื่องการดูแลช่องปากและฟันของสุนัข แต่รู้หรือไม่ว่าช่องปากและฟันสุนัขนั้นมีความสำคัญมาก เพราะเป็นอวัยวะที่สุนัขใช้กินอาหารทุกวันและเกี่ยวพันกับความผิดปกติของอวัยวะระบบอื่นๆ อย่างลึกซึ้ง โดยหากสุนัขมีปัญหาช่องปากและฟันแล้ว อาการเริ่มต้นที่เราสามารถพบได้คือมีกลิ่นปาก ปากเหม็น มีคราบพลัค คราบหินปูน น้องหมาจะเริ่มมีอาการปวดฟัน ทานอาหารน้อยลง ซึม หากปล่อยไว้นานไปอาจทำให้เหงือกอักเสบจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ รวมไปถึงคราบหินปูนที่ฟันก็ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย

ดังนั้นคงจะดีกว่าถ้าเรารู้วิธีการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันสุนัขอย่างถูกต้อง โดยคราวนี้เราจะขอนำเสนอเคล็ดลับการดูแลช่องปากและฟันสุนัขง่ายๆ ที่เจ้าของทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเองมาฝากกันดังต่อไปนี้

1. ฝึกแปรงฟันสุนัข

การแปรงฟันสุนัขเป็นการดูแลช่องปากที่ดีที่สุด โดยเราควรแปรงฟันให้สุนัขหลังทานอาหารเสร็จทุกมื้อหรืออย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง โดยมีสิ่งที่ต้องทราบคือยาสีฟันที่ใช้ต้องเป็นยาสีฟันสำหรับสัตว์เลี้ยงเท่านั้น เพราะยาสีฟันของมนุษย์มีสารฟลูออไรด์และสารประกอบอื่นๆ ซึ่งเป็นพิษต่อสุนัข รวมไปถึงแปรงสีฟันก็ควรใช้เป็นแปรงสำหรับสุนัข ซึ่งถูกออกแบบให้มีปลายโค้งมนทำให้ซอกซอนทำความสะอาดได้โดยที่ตัวสัตว์ไม่เจ็บ

แต่อย่างไรก็ดีวิธีนี้อาจเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคนเลยทีเดียว เนื่องจากน้องหมาบางตัวอาจไม่ให้ความร่วมมือ โดยหากเราฝึกแปรงฟันตั้งแต่สุนัขเป็นเด็กจะช่วยให้สามารถแปรงฟันได้ง่ายขึ้นมาก แต่หากอยากฝึกสุนัขให้แปรงฟันตอนนี้เรามีทริกสนุกๆ ที่จะช่วยให้เจ้าของแปรงฟันสุนัขได้ง่ายขึ้นตามนี้เลย

– เริ่มจากฝึกชิมรสยาสีฟัน : ควรให้สุนัขคุ้นเคยกับยาสีฟันก่อน โดยบีบยาสีฟันใส่นิ้วแล้วให้น้องหมาของเราค่อยๆ เลียทีละน้อยจนกว่าจะคุ้นเคยกับยาสีฟัน และควรเลือกรสชาติยาสีฟันสำหรับสัตว์เลี้ยงที่สุนัขของเราชื่นชอบ
– ฝึกแปรงฟันด้วยนิ้วก่อน : เมื่อสุนัขของเราคุ้นเคยกับยาสีฟันดีแล้ว ให้ป้ายยาสีฟันใส่นิ้วแล้วค่อยๆ ถูลงบนผิวฟันจนครบทุกซี่ หากน้องหมาไม่มีท่าทีต่อต้านให้ลองค่อยๆ เปลี่ยนเป็นแปรงสีฟันสำหรับสุนัขได้ หรืออาจจะเลือกใช้แปรงสีฟันแบบเป็นปลอกสวมนิ้วก็ได้เช่นกัน ในปัจจุบันยาสีฟันสำหรับสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องบ้วนปากหลังแปรงฟันเสร็จและสามารถกลืนได้โดยที่ไม่เป็นอันตราย
– อย่าลืมให้รางวัลหลังแปรงฟันเสร็จ : หลังเสร็จสิ้นการแปรงฟันในแต่ละครั้งอย่าลืมกอด ลูบหัว พูดชม หรือให้ของเล่นที่สุนัขของเราชื่นชอบ เพื่อกระตุ้นให้สุนัขของเรารู้สึกดีและมีความสุขทุกครั้งที่ได้แปรงฟัน ทำให้ตัวสุนัขรู้สึกอยากแปรงฟันในครั้งต่อๆ ไปมากยิ่งขึ้น

2. ขูดหินปูนเป็นประจำทุกปี

อีกทางหนึ่งที่จะช่วยให้ช่องปากสุนัขของเรามีสุขภาพดีคือการพาสุนัขของเราไปตรวจช่องปากกับสัตวแพทย์อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง และขูดหินปูนเป็นประจำทุกปี โดยการขูดหินปูนจะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคปริทันต์ ภาวะเหงือกอักเสบ และลดกลิ่นปากหรือปากเหม็นได้ โดยสัตว์แพทย์จะประเมินการขูดหินปูนตามความเหมาะสม แต่ส่วนมากแล้วมักจะขูดหินปูนประมาณ 1-2 ครั้งต่อปี โดยการขูดหินปูนที่ถูกต้องในสัตว์เลี้ยงนั้นจำเป็นต้องวางยาสลบ เนื่องจากมีการขูดหินปูนบริเวณใต้ฐานฟัน การไม่วางยาสลบจะทำให้เราขูดหินปูนได้แต่บริเวณภายนอก ซึ่งไม่เพียงพอต่อการป้องกันการเกิดโรคในช่องปากต่างๆ

3. เลือกชนิดและขนาดเม็ดอาหารที่เหมาะสม

สำหรับสุนัขที่มีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน การให้อาหารเม็ดจะช่วยทำให้สุขภาพช่องปากดีขึ้นมากกว่าการให้อาหารเปียก อีกทั้งการให้อาหารสำเร็จรูปที่มีขนาดเม็ดอาหารใหญ่กว่าจะช่วยส่งเสริมการบดเคี้ยวและขัดฟันได้มากกว่าเม็ดอาหารที่มีขนาดเล็ก ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้สุนัขขงเรามีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้นได้ด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ดี ไม่ควรเลือกขนาดเม็ดอาหารที่ใหญ่เกินไปกับขนาดช่องปาก เพราะจะทำให้สุนัขทานลำบากและเคี้ยวได้ไม่ละเอียด โดยอาจปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อเลือกขนาดเม็ดอาหารที่เหมาะสมกับสุนัขของเราได้

4. ให้กินขนมขัดฟัน

อีกวิธีหนึ่งที่เป็นที่ชื่นชอบของตัวสุนัขและยังช่วยให้สุขภาพช่องปากและฟันแข็งแรงด้วยคือการให้สุนัขกินขนมขัดฟัน โดยขนมขัดฟันนั้นจะช่วยขจัดคราบพลัคซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นปากและเหงือกอักเสบได้ ในปัจจุบันมีขนมขัดฟันสำหรับสุนัขออกมาหลากหลายแบบ จึงจำเป็นต้องเลือกให้ขนมน้องหมาของเราอย่างถูกต้อง โดยเราขอแนะนำขนมขัดฟันสุนัข Dr.Choice – Denta Care ที่มีข้อดีดังต่อไปนี้

– ได้รับการรับรองจากสัตวแพทย์ : ควรเลือกให้ขนมขัดฟันที่ได้รับการรับรองจากสัตวแพทย์เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและเหมาะสำหรับสุนัขจริงๆ
– ช่วยลดคราบพลัคอย่างได้ผล : ด้วยโครงสร้างขนมเป็นลักษณะรูปดาวช่วยให้เข้าร่องฟันได้พอดี ทำให้เมื่อสุนัขเคี้ยวจะช่วยลดคราบพลัคในช่องฟันอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยรักษาสุขภาพเหงือกและฟันได้
– มีสารเสริมเพื่อร่างกายที่แข็งแรง : เพื่อประโยชน์ที่รอบด้าน ขนมขัดฟันสุนัข Dr.Choice – Denta Care จึงมีการเสริม FOS-Prebiotic : ช่วยปรับสมดุลช่องปากและลำไส้ และ Beta Glucan ที่ทำหน้าที่เสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง รวมไปถึงสารอาหารสำคัญอื่นๆ อีกมากมาย เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 จาก Fish Oil ช่วยบำรุงขนและผิวหนัง แคลเซียมช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง และคอลลาเจน ที่จะช่วยให้สุนัขของคุณมีสุขภาพขนที่ดีมากยิ่งขึ้น
– ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติและไม่ใส่วัตถุกันเสีย : สุดท้ายคือ  ขนมขัดฟันสุนัข Dr.Choice – Denta Care ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ ทำให้มั่นใจได้เลยว่าปลอดภัย และไม่ใส่วัตถุกันเสีย และอีกทั้งยังอร่อยมีให้เลือกมากถึง 5 รสชาติ ตามแต่ที่สุนัขแต่ละตัวชอบได้เลย

การดูแลช่องปากและฟันเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคนไม่ควรมองข้าม โดยอาจเริ่มจากวิธีที่ทำได้ง่ายก่อน เช่น การให้ขนมขัดฟันสุนัข เพื่อช่วยเสริมสุขภาพช่องปากให้ดียิ่งขึ้น แล้วค่อยๆ เสริมการวิธีการดูแลช่องปากวิธีอื่นๆ เพิ่มขึ้นทีละขั้นตอน รวมไปถึงหากใครที่เริ่มเลี้ยงสุนัขเด็ก ควรเริ่มฝึกดูแลช่องปากด้วยการแปรงฟันตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้การดูแลช่องปากเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและง่ายกว่าการเริ่มต้นฝึกแปรงฟันในสุนัขที่โตเต็มวัยแล้วมากเลยทีเดียว